วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การเลือกเครื่องฟอกอากาศเพื่อลมหายใจที่สดชื่น

เมื่อสภาวะอากาศที่แปรปรวน ประกอบกับมลพิษทางอากาศที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในโลกของเรา และแน่นอนว่า บ้านที่เราๆ ท่านๆ อยู่ทุกวันนี้ ก็หนีไม่พ้นปัญหามลภาวะทางอากาศแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะบ้านในเขตกรุงเทพฯ และตามจังหวัดใหญ่ๆ ที่มีผู้คนและรถราอยู่กันอย่างหนาแน่น ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีผู้คิดค้นเครื่องฟอกอากาศภายในบ้านเพื่อให้อากาศในบ้านนั้นน่าหายใจกว่าอากาศภายนอก แต่ทุกวันนี้มีเครื่องฟอกอากาศออกจำหน่ายมากมาย หลายยี่ห้อ หลายชนิด ความยากจึงอยู่ที่ว่า แล้วเจ้าเครื่องไหนล่ะ ที่จะเหมาะสมที่สุด ในการนำมาวางไว้ในบ้านของเรา

รู้จักอากาศในบ้าน

อากาศภายในบ้านเรานั้น โดยปกติแล้วจะมีฝุ่นละอองและควันน้อยกว่าอากาศภายนอก ที่มีทั้งตัวไรฝุ่น ควัน ละอองเกสรดอกไม้ สปอร์เชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส เรดอน แร่ในหิน และกลิ่นต่างๆ มากมาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอากาศภายในบ้านจะมีสิ่งปนเปื้อนน้อยจนอยู่ในระดับปลอดภัย เพราะละอองรวมถึงแบคทีเรียจะมีผลต่อผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้และโรคในระบบทางเดินหายใจ อีกหลายอย่าง โดยอากาศเหล่านี้จะเข้ามาทางประตู หน้าต่าง และตกลงสู่พื้นห้อง หากห้องนั้นไม่สามารถระบายให้อากาศผ่านไปอีกด้านได้ อากาศบริสุทธิ์ที่แท้จริงคืออากาศที่ไม่มีฝุ่นผง หรือสิ่งปลอมปนภายในอากาศเลย

การติดเครื่องฟอกอากาศ

ธรรมชาติของอากาศที่หมุนเวียนภายในห้องนั้นมีปริมาณอากาศจำนวนมาก และแน่นอนว่าเจ้าเครื่องฟอกอากาศเครื่องเล็กนิดเดียวไม่สามารถทำหน้าที่กรองอากาศ ดักฝุ่น เชื้อโรค เชื้อราในอากาศได้หมดอย่างแน่นอน ดังนั้น การติดเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสม ควรเป็นห้องที่สามารถปิดมิดชิดได้ เพื่อให้เครื่องฟอกอากาศทำงานได้อย่างเต็มที่ เราลองนึกภาพว่าอากาศเป็นน้ำปริมาณมหาศาลในห้อง แล้วเครื่องปรับอากาศเป็นเครื่องทำให้น้ำเหล่านั้นสะอาด หากน้ำนิ่งๆ เครื่องก็จะทำงานได้เต็มที่ แต่หากน้ำนั้นมีการหมุนเวียนไปมาหรือมีอากาศนำฝุ่นผงเข้ามาอีกเรื่อยๆ เครื่องฟอกอากาศก็จะไม่มีกำลังเพียงพอที่จะดักกรองฝุ่นเหล่านี้ให้สะอาดขึ้น

หลักการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ

เครื่องฟอกอากาศทำงานโดยอาศัยหลักการง่ายๆ โดยเน้นไปที่เทคโนโลยีแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูง บางยี่ห้อโฆษณาว่าสามารถดักอนุภาคที่เล็กได้ถึง 0.01 ไมคอน หรือ 1 ใน 10,000 ส่วนของเส้นผมมนุษย์ ซึ่งอนุภาคเล็กขนาดนี้สามารถดักพวกเชื้อแบคทีเรียที่ลอยมากับอากาศได้เลยทีเดียว แต่แน่นอนว่า เครื่องฟอกอากาศยิ่งใช้แผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูงมากก็ยิ่งกินไฟมาก เพราะต้องใช้แรงดูดอากาศมากกว่าเครื่องที่ใช้แผ่นกรองทั่วไป หลังจากผ่านแผ่นกรองอากาศและก็ต้องเข้าสู่ส่วนดักกลิ่น ที่สามารถกรองกลิ่นต่างๆ ด้วยแผ่นกรองคาร์บอนกัมมันต์ ที่มีพื้นที่ผิวในการกรองมากถึง 300 เท่าของสนามฟุตบอลในการดักจับกลิ่น อัดอยู่ในพื้นที่ไม่กี่ตารางนิ้ว

ต่อมา ด้วยเทคโนโลยีที่สูงขึ้นและข้อจำกัดของเครื่องฟอกอากาศรุ่นเดิม จึงมีผู้ผลิตคิดค้นเทคโนโลยี โดยเพิ่มการปล่อยกระแสไฟฟ้านี้เป็นประจุบวก เมื่อมาเจอกับฝุ่นละอองในอากาศที่เป็นประจุลบ จะเกิดแรงดึงดูดให้ฝุ่นนั้นตกลงสู่พื้นเร็วขึ้น รวมทั้งประจุไฟฟ้าอ่อนๆ นั้นสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อโรคในอากาศบางชนิดได้ ซึ่งเราจะเห็นเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ในเครื่องปรับอากาศ ที่ใส่ระบบกรองอากาศเหล่านี้ลงไปด้วย อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่บ้างว่า การปล่อยประจุไฟฟ้าออกมาจะมีผลเสียต่อเซลล์เนื้อเยื่อของมนุษย์หรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีผลการวิจัยที่แน่ชัดออกมา

การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ดี

1. เครื่องฟอกอากาศที่ดีควรมี 2 ระบบในตัวเดียวกัน คือ มีทั้งความสามารถในการกรองฝุ่นชั้นอนุภาคใหญ่ๆ ในชั้นแรก และปล่อยประจุไฟฟ้าเพื่อดักฝุ่นในห้องให้ตกลงสู่พื้นอีกชั้นหนึ่งและควรกรองกลิ่นได้ในระดับหนึ่ง

2. มีแรงมากพอที่จะดูดอากาศโดยรอบ เพื่อดักฝุ่นและปล่อยอากาศสะอาดออกมา ด้วยแรงลมที่ไม่เบาจนเกินไปนัก
เครื่องฟอกอากาศ
3. สอบถามและหาข้อมูลของแผ่นกรองอากาศให้ดี ว่าสามารถกรองอนุภาคได้ขนาดไหน นอกจากนี้ ควรดูความยากง่ายในการทำความสะอาดและราคาแผ่นกรองใหม่ ในกรณีที่แผ่นกรองหมดอายุใช้งาน

4. หากเป็นเครื่องฟอกอากาศอย่างเดียว ควรกินไฟไม่เกิน 20 – 50 วัตต์

5. มีเสียงรบกวนเวลาเครื่องทำงานน้อยที่สุด เพราะส่วนมากเราจะใช้เครื่องฟอกอากาศในห้องนอนเวลากลางคืนมากที่สุด

6.สุดท้ายแล้ว ควรจะมีการดูแลหลังการขายและการรับประกันสินค้าที่ดีด้วย เพราะเครื่องฟอกอากาศเป็นอุปกรณ์ที่ต้องทำความสะอาดและดูแลรักษาเป็นประจำ ไม่เช่นนั้นแล้วเครื่องฟอกอากาศอาจจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคนานาชนิดได้

การใช้งานและดูแลเครื่องฟอกอากาศ

เครื่องฟอกอากาศถือว่าเป็นอุปกรณ์ราคาแพงที่ต้องการการดูแลรักษาอยู่เสมอ เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานตลอดเวลา

1. สำหรับเครื่องฟอกอากาศที่ใช้แผ่นกรองเพียงอย่างเดียงควรปิดห้องให้เครื่องทำงานก่อนสัก 1 – 2 ชั่วโมง ให้อากาศในห้องดีขึ้นก่อนเข้าไป

2. เครื่องฟอกอากาศแบบปล่อยประจุไฟฟ้าในอากาศแม้ว่าราคาจะแพงกว่าเครื่องอื่น แต่ก็เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลทำความสะอาดเครื่องฟอกอากาศมากนัก อีกทั้งการดูแลรักษายังง่ายกว่าแบบอื่น

3. ดูแลทำความสะอาดหรือเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศอย่างน้อยทุก 2 เดือน โดยการล้างเป่า ตากแดด เพื่อฆ่าเชื้อโรค หากเป็นกรองพิเศษที่ไม่สามารถล้างได้ด้วยน้ำควรทำความสะอาดตามคู่มือที่ระบุไว้ หรือติดต่อไปยังตัวแทนจำหน่าย

แม้ว่าเครื่องฟอกอากาศจะดูไม่จำเป็นนักสำหรับชีวิตในปัจจุบัน แต่อย่างน้อยในช่วงเวลาหนึ่ง เราก็น่าจะได้สูดอากาศสะอาดๆ ด้วยเครื่องฟอกอากาศเล็กๆ เพื่อสุขภาพ ก่อนที่จะออกไปใช้ชีวิตกลางเมือง ที่มีแต่สิ่งบั่นทอนสุขภาพกายใจ แต่ถ้าจะให้ดี วันหยุดยาวนี้ก็น่าจะออกไปสูดอากาศต่างจังหวัด จะดีกว่าเป็นไหนๆ ครับ


คำถามที่มีคำตอบเกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศ กรองอากาศ (ตอบโดยช่างผู้ชำนาญ)

คำถามทุกคำถามเกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศคำตอบที่คุณอยากรู้ หากคุณได้ดูวีดีโอนี้แล้ว คุณจะรู้ยิ่งกว่า
นี่เป็นวีดีโอที่มีการสัมภาษณ์ทีมช่างและทีมเซอร์วิสเครื่องฟอกอากาศ จากช่างที่ทำนาญและมีประสบการณ์ยาวนานในเรื่องการดูแลและติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ
คำตอบจากหลายๆ คำถาม มีคำตอบให้แล้วที่วีดีโอชุดนี้แล้ว
หากท่านมีคำถามใดอื่นอยากจะถามเรา ทางเราจะหาคำตอบมาให้ท่านด้วยความยินดี
สถานที่ที่ควรจะติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ? คำถามข้อนี้ตอบโดยช่างเทคนิคของบริษัท ซึ่งเป็นผู้ที่เคยเป็นช่างเซอร์วิสและติดตั้งมาก่อน มีทั้งประสบการณ์การทำงานในสถานที่จริงมาแล้ว

สำหรับงานที่เป็นออฟฟิศเพราะจะมีฝุ่นเยอะ เครื่องฟอกอากาศจะช่วยดักฝุ่น เชื่อโรค และกลิ่นหรือว่าเป็นหวัด ภูมิแพ้ จะช่วยได้เยอะ จะกรองกลิ่น อาหารในห้องที่เป็นออฟฟิศเราทานอาหาร กินข้าว จะช่วยลดกลิ่นได้


"ก็ตามสำนักงาน ตามออฟฟิศ ที่มีเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องปริ้นเตอร์ แล้วก็ตามโรงงานอุตสาหกรรมที่มีฝุ่นละอองแล้วก็มีกลิ่น"
"บ้านโรงพยาบาล ที่ประสบปัญหาเรื่องกลิ่น ปัญหาเรื่องอากาศ"
เรายังได้ถามช่างผู้นี้ต่อไป เพื่อจะได้รู้คำตอบเรื่องการทำงานหรือการดูแลเครื่องฟอกอากาศบ้าง และเราก็ได้คำตอบสั้น ๆจากช่างผู้มากประสบการณ์คนนี้

"เครื่องฟอกอากาศจะดูดของเสียฝุ่นละออง ที่เป็นเชื้อโรคเข้าไปเกาะติดไว้ที่เครื่อง นาน ๆ เข้า จะทำให้การทำงานได้ไม่เต็มที่ถ้าหากมีการดูแลไม่ถูกวิธี ตัวอย่าง เช่น การเอาน้ำยาล้างจานไปทำความสะอาดการทำความสะอาดโดยไม่ใช้น้ำยาเฉพาะ จะมีผลกระทบต่อตัวอลูมิเนียม หรือตัวดักฝุ่น (Cell) จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องฟอกอากาศลดลง"
คำถามที่ผู้สัมภาษณ์ยิงใส่ทีมช่างยังไม่เพียงพอที่จะเป็นเหตุผลหรือเพียงพอต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคได้ จึงได้เข้าไปถามทีมเซอร์วิส เพื่อจะได้รู้คำตอบว่า จากประสบการณ์ของทีมเซอร์วิสควรมีการดูแลเครื่องฟอกอากาศอย่างไร ? แต่สงสัยว่าช่างท่านนี้จะขี้อายจริงๆ ตอบคำถามสั้นเอามาก ๆ ว่าแล้วก็ไปฟังคำตอบกันเลยครับ
"สำหรับผู้ที่ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศแล้วควรจะดูคู่มือการใช้งานและการรักษาเครื่องเป็นอันดับแรก "
"และเพื่อประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของเครื่องควรจะมีการทำความสะอาดโดยผู้ชำนาญงานทุก ๆ สองเดือน"
"สิ่งที่จำเป็นจะต้องทิ้งเพราะว่าไม่สามารถทำความสะอาดได้ อย่างเช่นพวก charcoal HEPA ส่วนตัวที่จะต้องทำกลับมาทำความสะอาดก็จะเป็นพวกตัวกำจัดเชื้อโรค อย่างพวกใส้กรอง ที่จะต้องนำกลับมาแช่น้ำยาทิ้งไว้แล้วก็ล้างออกด้วยเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ส่วนเวลาล้างจะต้องระวังให้มากเพราะว่าอุปกรณ์บางตัวเสียหายได้"
แต่ก็ยังมีอีกคำถามที่อยากจะถามทีมเซอร์วิสจึงได้ถามต่อไปอีก ว่า เมื่อมีการออกไปบริการดูแลเรื่องฟอกอากาศช่างทำงานกันอย่างไรบ้าง?
ก็ได้คำตอบสำหรับข้อนี้สั้นๆ อีกว่า

"เริ่มจากเปลี่ยนใส้กรองตัวใหม่แทนตัวเก่าตรวจสอบระบบไฟฟ้า ระบบสวิทซ์ การทำงานของระบบอุปกรณ์ การขับเคลื่อนของมอเตอร์พาวเวอร์ซัพพลาย ชุดรีโมท
อุปกรณ์สวิทช์เซฟตี้และก็ขั้นตอนสุดท้ายก็ทำความสะอาดเครื่องทั้งภายนอกและภายใน"
"ใช้เวลาในการให้บริการลูกค้าประมาณ 20-30 นาที"
ลองมาฟังคำตอบของช่างเทคนิคดูบ้างคนที่ทำงานในวงการเครื่องฟอกอากาศมานานว่า 20 ปี แล้ว เรียกว่าประสบการณ์คงโกหกในเรื่องนี้ไม่ได้ คำถามที่ช่างผู้มากประสบการณ์ผู้นี้ได้ไปก็คือจากประสบการณ์ คิดว่าเครื่องฟอกอากาศมีประโยชน์ต่อบุคล หรือมีประโยชน์อย่างไรบ้าง


"สำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ในสถานที่ทำงานที่มีฝุ่นละออง เครื่องฟอกอากาศสามารถช่วยกำจัดฝุ่น กำจัดกลิ่นและก็เชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียได้"
"สำหรับงานที่เป็นออฟฟิศเพราะจะมีฝุ่นเยอะ เครื่องฟอกอากาศจะช่วยดักฝุ่น เชื่อโรค และกลิ่นหรือว่าเป็นหวัด ภูมิแพ้ จะช่วยได้เยอะ จะกรองกลิ่น อาหารให้ห้องที่เป็นออฟฟิศเราทานอาหาร กินข้าว จะช่วยลดกลิ่นได้"

คำตอบที่ผ่านๆ มา เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการลูกค้าที่ใช้บริการเครื่องฟอกอากาศเครื่องกรองอากาศ แล้วทีนี้ เรามาดูการแนะนำวิธีการเบื้องต้นหากว่าท่านติดต่อช่างเซอร์วิสไม่ได้ หรือว่าติดต่อตัวแทนจำหน่ายยากเหลือเกินผู้ที่ให้คำตอบนี้ได้ดีอาจจะไม่ใช่ช่าง ลองมาฟังทีมงานให้บริการลูกค้าดูบ้าง
"หากเครื่องฟอกอากาศของคุณมีปัญหาหรือทำงานผิดพลาดควรจะปิดเครื่องก่อน แล้วทำการตรวจเช๊คเบื้อต้นจากคู่มือที่ได้รับมาแต่ถ้าไม่แน่ใจก็ควรจะติดต่อตัวแทนจำหน่าย"
แล้วพนักงานหน้าหวานคนนี้ยังได้พูดชักชวนให้ใช้เครื่องฟอกอากาศอีกด้วย


"ที่ที่เต็มไปด้วยฝุ่นกลิ่น และควัน อย่างเช่นสำนักงาน ก็มีความจำเป็นที่จะต้องติดเครื่องฟอกอากาศเหมือนกันเพราะว่าบางสำนักงานปูพื้นด้วยพรม เวลาคนในสำนักงานเดินไปเดินมาก็เปรียบเสมือนการเตะฝุ่นให้ฟุ้งกระจาย ในอากาศ อีกทั้งกลิ่นที่อยู่ในเครื่องพิมพ์และเครื่องปริ้นเตอร์เป็นอันตรายต่อคนในสำนักงาน และยิ่งสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คน สถานที่นั้นอาจจะเป็นสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยเฉพาะบ้านทีมีสัตว์เลี้ยงและบ้านที่มีคนที่เป็นโรคภูมิแพ้เพราะว่าขนจากสัตว์และกลิ่นอันไม่พึงประสงค์อาจมีผลต่อคนที่เป็นโรคภูมิแพ้"


"หลายคนคงคิดว่าเครื่องฟอกอากาศนั้นไม่มีความจำเป็นแต่แท้จริงแล้ว ยิ่งชีวิตคนกรุงเทพฯ แม้แต่น้ำฝนยังกินไม่ได้เฉพาะฉนั้นเครื่องฟอกอากาศจึงมีความจำเป็นมาก เพราะอากาศที่อยู่รอบตัวเราล้วนเต็มไปด้วยมลพิษและเชื้อโรคเวลาเรารับประทานน้ำยังต้องใช้เครื่องกรองน้ำเพื่อกรองก่อนแล้วอากาศที่เราสูดเข้าไปล่ะ เราควรจะกรองมันก่อนหรือเปล่า"

ทั้งหมดนี้เป็นการสัมภาษณ์พนักงานฝ่ายติดต่อ บริการ แนะนำ และช่าง ในเรื่องของเครื่องฟอกอากาศเท่านั้น หากว่าท่านผู้อ่านต้องการหาคำตอบในข้อไหน ทางเรายินดีที่จะให้คำตอบเรื่องการบริการให้กับท่าน แต่หากมีข้อไหนที่ผิดพลาดไป ทางผู้เขียน และผู้จัดทำยินดีแก้ไข และยอมรับคำตำหนิจากทุก ๆ ท่าน



02-249-5155

วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

วิธีการเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้า

วิธีการเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ
            เชื่อว่าในการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าของทุก ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นต่อบ้านเรือน หรือต่อครอบครัวของท่านเอง หลาย ๆ คนคงต้องมีเหตุ และผลของการเลือกของตัวเองและถ้าให้เหตุผลของทุก ๆ คนแล้ว จะต้องมีหลาย ๆ เหตุผลที่เป็นเหตุและผลที่ตรงกัน ซึ่งหากเลือกเอาเหตุผลส่วนใหญ่มาตัดสิน คงไม่ถูกต้องนัก เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติ ความโดดเด่นต่างกันออกไป ซึ่งการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะเครื่องฟอกอากาศก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง และเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เลือกซื้อกันบ่อยนัก นั่นเป็นเพราะบ้านเรายังไม่ต้องการสิ่งนี้นัก แต่หากมีวันหนึ่งวันใดที่เรามีเหตุที่จะต้องซื้อ หรือมีไว้ในครอบครองแล้วหล่ะก็ คงต้องหาความรู้เรื่องนี้กันพอสมควรเลยล่ะ ด้วยเหตุนี้ จำเป็นจะต้องมีองค์ประกอบสำหรับการเลือกซื้อ เปรียบเทียบเครื่องฟอกอากาศดังนี้

1. การทำงานของเครื่องฟอกอากาศ 
        เนื่องจากเครื่องฟอกอากาศแต่ละระบบทำงานไม่เหมือนกัน และการนำไปใช้งานก็ควรจะเหมาะกับระบบการทำงานนั้น ๆ ด้วยเหตุที่ว่าสภาพแวดล้อมที่นำเครื่องฟอกอากาศไปใช้นั้นไม่เหมือนกัน บางที่อาจจะนำไปฟอกอากาศด้วยเหตุผลที่ว่า เครื่องจะช่วยดับกลิ่น หรือช่วยกำจัดเชื้อโรค ด้วยเหตุนี้จึงควรจะคำนึงถึงระบบการทำงานของเครื่องฟอกก่อนเป็นอันดับแรก
 


     สำหรับระบบการทำงานของเครื่องฟอกในปัจจุบันก็มีหลายระบบการทำงานด้วยกัน ผู้ซื้อควรจะเลือกซื้อระบบทำงานให้ตรงกับวัถุประสงค์ของตนเอง ก่อน แล้วนำไปเปรียบเทียบกับข้ออื่น ๆ ต่อไป


2.การดูแลรักษา 
     อย่าลืมว่าเครื่องฟอกอากาศจะต้องดูดเอาอากาศเข้าไป นั่นหมายถึงอากาศทั้งดีและไม่ดี แล้วก็ผ่านระบบต่าง ๆ ก่อนที่จะปล่อยออกมาอีกครั้ง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าการที่ดูดเอาอากาศเข้าไปแล้ว จะได้อากาศบริสุทธิ์ 100% อย่าลืมว่า เมื่อเครื่องทำงานย่อมมีเชื้อโรคเข้าไปในเครื่องได้ เพราะฉนั้นหากไม่มีการเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับทางเดินอาอาศเลย เชื้อโรคก็จะยิ่งสะสม นับวันจากที่เป็นเครื่องกำจัดเชื้อโรคก็จะกลายเป็นเครื่องแพร่เชื้อโรคอย่างดีนี่เอง หากจำเป็นจะเลือกเครื่องฟอกควรเลือกที่มีการบริการ อะไหล่ หลังการขายด้วย

3.การรับประกันสินค้า กับราคา
       แน่นอนว่าการเลือกซื้อสินค้าทุก ๆ อย่าง เราต้องอยากได้การรับประกันสินค้าเป็นระยะเวลาพอสมควร ยิ่งนานยิ่งดี เครื่องฟอกอากาศก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีการรับประกันอุปกรณ์ ก็เหมือนกับลอยทะเลผู้ซื้อ ซึงเพียงแต่ขายได้ก็พอแล้ว โดยไม่สนว่าผู้ซื้อไปแล้วจะใช้ได้ ใช้ถูกวิธีหรือไม่
     และอย่าลืม ราคา ข้อนี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งบางที่ราคาเครื่องฟอกไม่เท่าไร่แต่ถ้าจะซื้อพร้อมกับประกันสินค้าแล้วต้องจ่ายแบบแพงหูฉี่ นั่นหมายความว่า ผู้ขายบวกราคาเพื่อไปซื้ออุปกรณ์มาเปลี่ยนให้ท่าน

4.ความชำนาญงานของคู่มือ 
     ดูเหมือนว่าข้อนี้จะเป็นข้อที่น่าจะสำคัญที่สุด เพราะหากว่าท่านมีเครื่องฟอก มีอากาศให้ฟอก แต่ไม่รู้ว่าจะวางเครื่องไว้ตรงไหน นั่นก็จะทำให้เครื่องฟอกอากาศของท่านดูไร้ประสิทธิภาพทันที ดูเหมือนว่าทางเลือกที่ดีหากเป็นเครื่องฟอกอากาศที่จะต้องติดตั้งควรจะต้องมีช่างผุ้ชำนาญงานมาดูสถานที่ให้ท่านก่อนทำการติดตั้ง จะดีกว่าทำการติดตั้งเอง แต่หากเป็นเครื่องฟอกอากาศที่เคลื่อนที่ได้ก็ควรจะมีคู่มือที่ให้ความละเอียดพอที่จะเข้าใจหลักการทำงาน

5.องค์ประกอบอื่น ๆ 
      สิ่งอื่น ๆ ที่จะต้องไม่ลืมสำหรับการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเลย ท่านอย่าลืมดูภายนอก ไม่ว่าจะเป็น วัสดุที่เลือกใช้ การประหยัดไฟ มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ถ้าเป็นเครื่องฟอกอากาศ ก็อย่าลืมเรื่องเสียงในขณะที่เครื่องทำงาน อุปกรณ์เสริม การวาง การติดตั้ง

 หากท่านมีโอกาสที่ต้องซื้อเครื่องฟอกอากาศซักเครื่องก็อย่าลืมคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ด้วย เพราะการซื้อสิ่งของซักชิ้นหนึ่งท่านคงไม่อยากเสียเวลาและเสียทรัพสินไป โดยที่ ได้ของไม่สมกับที่ต้องจ่ายไป


TAG : การเลือกซื้อเครืืองใช้ไฟฟ้า  การเลือกซื้อเครื่ืองฟอกอากาศ  การดูแลรักษาเครื่องฟอกาอากาศ  การรับประกันสินค้า

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

รู้จักกับโรคภูมิแพ้ และเครื่องฟอกอากาศช่วยได้อย่างไร

        โลกเราในทุกวันนี้ล้วนเต็มไปด้วยเชื้อโรคและฝุ่นละอองต่างๆ มากมาย ซึ่งเป็นการยากที่เราจะหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งเชื้อโรคและฝุ่นละอองที่มากมายเหล่านี้ ยังเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ มากมาย รวมทั้งโรคภูมิแพ้ที่กำลังจะพูดต่อไปนี้

โรคภูมิแพ้ คือ โรคที่เกิดจากปฏิกิริยาภูมิไวเกินต่อสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งในคนปกติไม่มีปฏิกิริยานี้เกิดขึ้นซึ่งผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีปฏิกิริยาภูมิที่ไวต่อฝุ่น ตัวไรฝุ่น เชื้อราในอากาศ อาหาร ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ การเปลี่ยนแปลงของอากาศ เป็นต้น และสารที่ก่อให้เกิดโรคนี้เราเรียกกันว่าสารก่อภูมิแพ้

โรคภูมิแพ้สามารถแบ่งได้ตามอวัยวะที่เกิดโรคได้ 4 โรค คือ

  • โรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือโรคแพ้อากาศ

  • โรคตาอักเสบจากภูมิแพ้

  • โรคหอบหืด

  • โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

อาการที่โดยทั่วไป คือ อาการจาม น้ำมูกไหล คัดจมูก คันตา คันบริเวณเพดานปากและลำคอ อาการต่างๆ นี้เป็นอาการที่เกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ ผู้ที่มีปฏิกิริยาภูมิแพ้ในร่างกาย แบ่งเป็น 2 แบบ ตามช่วงเวลาการเกิดอาการคือ พวกที่เป็นตลอดปี กับพวกที่เป็นบางฤดู จากการศึกษาในประเทศไทยพบว่าคนไทยส่วนใหญ่จะเป็นตลอดปี

กลไกการเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้

เครื่องฟอกอากาศช่วยได้อย่างไร

โดยปกติเมื่อร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในร่างกายบ่อยๆ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะทำการจดจำ และสร้างภูมิคุ้มกันชนิดหนึ่งที่มีสมบัติเป็นโปรตีน เรียกว่า IgE ( อ่านว่า ไอ-จี-อี ) และเมื่อร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าไปอีก สารก่อภูมิแพ้จะไปจับกับ IgE ซึ่งอยู่บนเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดขาวนี้จะแตกออกและปล่อยสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ฮิสตามีน ( histamine ) ออกมา เจ้าสารฮิสตามีนนี้แหละจะเป็นตัวที่ทำให้เยื่อบุจมูก เยื่อบุตา ลำคอ เกิดการอักเสบ เกิดการบวม และสร้างเมือกออกมามากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล และคันจมูกตามมา

โรคภูมิแพ้สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์คือ ถ่ายทอดจากพ่อและแม่มาสู่ลูก เหมือนภาวะอื่นๆ ในทางกลับกันแม้ว่าพ่อแม่ของเราจะเป็นโรคภูมิแพ้ เราอาจจะไม่มีอาการใดๆ เลยก็ได้ ซึ่งหากกำจัดสิ่งเหล่านี้ได้ โรคภูมิแพ้ก็จะน้อยลง หรือไม่เกิดขึ้นกับตัวเราเลย

เครื่องฟอกอากาศ วิธีการป้องกัน วิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับโรคภูมิแพ้คือ การป้องกันมิให้ได้รับสารที่แพ้ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนเพียงพอ รับประทานอาหารถูกส่วน และไม่เครียด คือการเสริมสุขภาพทั่วไปให้ดีนั้นทำให้อาการทุเลาได้

วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เครื่องฟอกอากาศ CR 1000

<data:blog.title/> <data:blog.pageName/> <data:blog.pageName/>


          เครื่องฟอกอากาศ รุ่น CR 1000 เป็นเครื่องฟอกอากาศเพื่อใช้สำหรับกำจัดมลพิษ เช่น ฝุ่น หมอกควัน บุหรี่ ไอมลพิษ สารเคมีที่ลอยในอากาศ เชื้อไวรัส เชื้อราแบคทีเรีย เกสรดอกไม้ กลิ่นอับชื้น สารอินทรีย์ เป็นต้น  สามารถขจัดอนุภาคขนาดเล็กและให้ประสิทธิภาพสูง อากาศหมุนเวียนคงที่สม่ำเสมอ




เครื่องฟอกอากาศ CR 1000


          ทำงานด้วยระบบอิเลคโตรสแตติคส์ พรีซิพิเตเตอร์ (Electrostatics Precipitators) ซึ่งเป็นระบบที่เหมาะกับสถานที่ที่มีฝุ่นเป็นจำนวนมาก เช่น สำนักงาน สถานประกอบการต่าง ๆ

          เครื่องฟอกอากาศ รุ่น  CR 1000 เครื่องฟอกอากาศแบบแขวนเพดานโดยใช้ชุดพัดลมนำพาอากาศเข้าสู่ระบบกรองอากาศ ภายในตัวเครื่องด้านล่าง โดยผ่านแผ่นกรองขั้นแรกเพื่อดักจับอนุภาคขนาดใหญ่ก่อน หลังจากนั้นอากาศจะไหลผ่านเข้าสู่ระบบกรองแบบไอออนไนเซอร์ ซึ่งทำให้อนุภาคฝุ่นละอองเกิดประจุทางไฟฟ้า ซึ่งฝุ่นละอองและอนุภาคที่เป็นมลพิษในอากาศเหล่านี้จะถูกดูดเข้าหาแผ่นโลหะ ที่มีประจุตรงข้ามที่อยู่บริเวณส่วนกักเก็บอนุภาค (Collecting Cell) เพื่อเก็บมลพิษไว้ และได้อากาศที่สะอาดผ่านออกมาทางช่องลมด้านข้าง 4 ทิศทาง นอกจากนี้ยังมีชุดกรองกลิ่น (Charcoal Filter) เพื่อเพิ่มคุณภาพอากาศที่กรองออกมาให้บริสุทธิ์เป็นธรรมชาติ










Air volume 1000 CFM
Speed Level 3
Area Coverage 80-100 M2
Power Consumption 150 watt
Dimensions 23" x 23" x 13"
Unit Weight 30 Kgs

 
เครืิ่่องฟอกอากาศรุ่นนี้ยังเป็นรุ่นที่กล้ารับประกัน 5 ปี ให้กับลุกค้าอีกด้วย

 ...รับประกัน 5 ปี...


Tag : เครื่องฟอกอากาศ,สำนักงาน,ฟอก,ฝุ่น,ฟอกกลิ่น,เครื่องกรอง,อากาศ,ก๊าซพิษ,สาร ระเหย,เคมี,พัดลม,พัดลมไอน้ำ,น้ำยาล้างแอร์,Air,Cleaner,Purifier

เครื่องฟอกอากาศอุตสาหกรรม

<เครื่องฟอก/> <เครื่องฟอกอากาศสำหรับอุตสาหกรรม/> <บริการติดตั้งและจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศ ทำความสะอาด ล้าง ดูแลแผ่นกรองอากาศ />
   สวัสดีครับ ชาวบล็อกสปอท

 บล็อกนี้ของผมขอเสนอเกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศอุตสาหกรรม (Industrial Air Cleaner) ที่ทางบริษัท อี.เอส.ที เป็นผู้ผลิตนะครับ
      ที่เรียกว่าเครื่องฟอกอากาศอุตสาหกรรมก็เพราะว่า เครื่องฟอกอากาศรุ่นแบบนี้ เหมาะสำหรับใช้ในโรงงานมากกว่าในบ้านเรื่อนหรือในออฟอฟิตครับ หรือบางท่านอาจจะประยุกต์ให้เข้ากับการใช้งานในออฟฟิตก็แล้วแต่ ซึ่งถ้าในลักษณะนั้นก็เป็นไปได้ครับ เพราะก็มีในลูกค้าบางรายที่นำไปใช้ในออฟฟิตเหมือนกัน แต่ต้องมาดัดแปลงกันอีกเล็กน้อยนะครับ


      ในส่วนของเครื่องฟอกอากาศอุตสาหกรรมที่ออกจากโรงงาน(ยังไม่ได้ดัดแปลง)ของ บริษัท อี.เอส.ที.นี้ จะมีด้วยกัน 3 ตัวนะครับ ทั้งสามตัวจะมีข้อเหมือนข้อแตกต่างกันตามที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้


ตัวแรก เครื่องฟอกอากาศที่มีชื่อว่า MT 1251 ตัวนี้เป้นตัวออริจินอล (Original) คือเป็นเครื่องฟอกอากาศที่ยังไม่ได้ดัดแปลงเลยครับ (ถ้าดัดแปลงแล้วจะมีต่อท้ายรหัส)
เครื่องฟอกอากาศ MT 1251





เครื่องฟอกอากาศตัวนี้มีขนาดแรงลมมาตรฐานขนาด 500-1000 CFM. ครับ ส่วนระบบที่ใช้เป็นระบบ Media Filter  ตัวนี้ทางบริษัทประกันสินค้าให้ 1 ปีนะครับ ส่วนขนาดและสเปกเครื่องดูได้จากข้างล่างนะครับ
Overall dimension MT 1251


24 1/2" x 32 3/4"x 14"(W x L x H)
Weight MT 1251   H - 110 Lbs. (50 kgs.)
MT 1251 H/C - 120 Lbs. (54.5 kgs.)
MT 1251 C - 130 Lbs. (59 kgs.)


ต่อมาเป็นโมเดลที่มีชื่อว่า  MT 125145C อย่างที่เคยบอกไปครับ ตัวนี้เป็นตัวดัดแปลงให้เหมาะกับการใช้งานยิ่งขึ้น ซึ่ง ขนาดสเปกของเครื่อง หรือว่าระบบการทำงานไม่ได้ต่างไปจากตัวแรกเลย 
เครื่องฟอกอากาศ MT 125145C













นอก จากตัว MT 1251และ MT125145C แล้วยังมีตัว MT Mobile มาให้อีก ซึ่งตัวMobile มีจุดเด่นอยู่ที่เคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก เพราะมีล้อเลื่อนที่แข็งแรงถึง 4 ล้อ ตัวนี้ผมยังหารูปมาลงให้ไม่ได้ครับ




ตัวสุดท้ายในรุ่นของเครื่องฟอกอากาศอุตสาหกรรมนี้ ขอเสนอน้องเล็กของเรา ที่มาพร้อมด้วยคุณภาพไม่เล็กเลย นั่นก็คือ SC 150
ตัว นี้ไม่แนะนำให้แต่งเสริมหรือดัดแปลงเพิ่มครับ  เพราะว่าตัวน้องเล็กเรามีทุกอย่างแล้ว เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่จำกัดครับ  ตัวเครื่องมีท่อคล้ายงวงช้างที่สามารถดัดโค้งงอได้ซึ่งทำให้ SC 150 ตัวนี้มีจุดเด่นเลยทันที และตัวเคลื่องมีขนาดเล็ก ไม่มีเสียงดังรบกวนด้วยครับ ไปดูหน้าตาน้องเล็กของเราเลยดีกว่า


เครื่องฟอกอากาศ SC 150




ขนาดสเปกของเครื่องนั้นเรียกว่า วางตรงไหนก็ได้ครับ ดูได้จากรูปที่พนักงานในบริษัททำงานกันครับ










นอก จากเครื่องฟอกอากาศทั้ง 3ตัวนี้ ยังมีเครื่องฟอกอากาศอีกหลายตัวที่ผมยังไม่ได้นำเสนอ  วันนี้ขอพอไว้แค่นี้ก่อนนะครับ ไว้วันหลังผมจะนำเสนอเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับออฟฟิตบ้าง




Tag : เครื่องฟอกอากาศ,สำนักงาน,ฟอก,ฝุ่น,ฟอกกลิ่น,เครื่องกรอง,อากาศ,ก๊าซพิษ,สาร ระเหย,เคมี,พัดลม,พัดลมไอน้ำ,น้ำยาล้างแอร์,Air,Cleaner,Purifier